วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ข้อมูลไฟล์และไวรัสคอมพิวเตอร์

ข้อมูลไฟล์และไวรัสคอมพิวเตอร์



    โดย     ไพฑูรย์ Yaemprasuan  
        พิเศษมีประสบการณ์ครู
        สารสนเทศและการ Strand เทคโนโลยี
   



3. 1 ข้อมูลและสารสนเทศ

             
  ข้อมูล (Data) หมายถึงข้อเท็จจริงที่อยู่ในรูปแบบต่างๆเช่นตัวเลขข้อความภาพเสียงภาพเคลื่อนไหวเป็นต้น    สารสนเทศ(Information) หมายถึง ระบบสารสนเทศมีองค์ประกอบดังนี้
        3.1.1 ฮาร์ดแวร์ (Hardware)   หมายถึง เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์รอบข้าง  รวมทั้งอุปกรณ์สื่อสารสำหรับเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เข้าเป็นเครือข่ายอีกด้วย
3.1.2 ซอฟต์แวร์ (Software)   หมายถึง ลำดับขั้นตอนของคำสั่งที่จะสั่งให้ฮาร์ดแวร์ทำงาน
        3 . 1.3 บุคลากร  หรือพีเพิลแวร์ (Peopleware) หมายถึง ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ผู้ดูแลระบบนักวิเคราะห์ระบบหรือนักเขียนโปรแกรม 
3.1.4  ข้อมูล    จะต้องมีความถูกต้องชัดเจนและมีมาตรฐานการจัดเก็บ
3.1.5   ขั้นตอนการปฏิบัติงาน  หรือโพรซิเยอร์ (Procedure) เป็นแนวปฏิบัติของผู้ใช้ระบบสารสนเทศ   เพื่อให้ระบบมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย


peopleware (บุคลากร) เป็นหัวใจสำคัญของระบบสารสนเทศ
3.   การจัดเก็บข้อมูล

  ฮาร์ดดิสก์ฟล็อปปีดิสก์ซีดีรอมแฟล็ชไดรว์ ฯลฯ องค์ประกอบของไฟล์มีดังนี้

3.2. 1 ชื่อไฟล์ (ชื่อไฟล์)  อาจจะเป็นตัวอักษรตัวเลขหรือสัญลักษณ์ก็ได้ คือ   ทับ) (ด้านหลังเฉือน) (เครื่องหมายคำพูด)ลำไส้ใหญ่) (ท่อ)   [] (ตาราง Blacket) (ดอกจัน), (เครื่องหมายคำถาม) (บวก เข้าสู่ระบบ) (เครื่องหมายเท่ากับ)(อัฒภาค)  (น้อยกว่า) (มากขึ้น


3.2. 2 ประเภทของไฟล์ (ไฟล์ประเภท)  จะเป็นแจกแจงให้ทราบว่าเป็นไฟล์ประเภทใดหรือ

ไฟล์จะมีส่วนขยายไฟล์(File Extention) ต่อท้ายชื่อไฟล์ (ปกติจะซ่อนไว้ไม่ให้เราเห็น) ซึ่งส่วนขยายไฟล์จะมีอยู่ 3 ตัวอักขระเช่นและด็อตอีเอ็กซ์อี ( .exe ) (. DOC ) และด็อตเท็กซ์ต์ ( .txt ) ( .gif ด็อตเจเพ็ก ( .jpg ด็อตพิค ( .pic หรือด็อตทิฟ(.tif)  เป็นต้น






3 .2.3 ขนาดของไฟล์ (ไฟล์  ( Byte) ซึ่งเป็น

หน่วยความจำที่เล็กที่สุดที่มนุษย์สามารถรับรู้ได้ กิโลไบต์ ( กิโลไบต์ : KB)   ซึ่งมีค่าเท่ากับ 2 10 (1,024 ไบต์) เมกกะไบต์(Megabyte: MB) มีค่าเท่ากับ 2 20 (1,048,576 ไบต์) กิกะไบต์(Giagabyte: GB)   มีค่าเท่ากับ 2 3 0 หรือ 1,073,741,824 ไบต์ตามลำดับ






4. 1 ไวรัสคอมพิวเตอร์คืออะไร

              

  ไวรัสคอมพิวเตอร์คือ มีการเจริญเติบโตได้ขยายและแพร่กระจายตัวเองได้ ระบบเครือข่ายและสื่อเก็บข้อมูลต่างๆ





4. 2 อาการของเครื่องที่ติดไวรัสคอมพิวเตอร์
          น่าสงสัยว่าจะติดไวรัสหรือไม่โดยสังเกตอาการที่ผิดปกติดังนี้
    4.2.1   ใช้เวลานานกว่าปกติในการเรียกโปรแกรม
    4. 2.2 ขนาดของไฟล์โปรแกรมใหญ่ขึ้นจนผิดสังเกต
    4. 2.3 วัน เวลาของโปรแกรมหรือไฟล์ข้อมูลเปลี่ยนไป ทั้งๆที่ไม่ได้แก้ไขหรือเรียกใช้งาน
    4. 2.4 ขนาดของหน่วยความจำรองเช่นฮาร์ดดิสก์แฟล็ชไดรว์ ( แฮนดีไดรว์) เหลือพื้นที่น้อยลงอย่างผิดสังเกตหรือไม่สามารถเข้าไปใช้งานได้เป็นต้น
    4. 2.5 ไฟแสดงสถานภาพการทำงานของฮาร์ดดิสก์ติดค้างนานผิดปกติ หรือกระพริบอยู่ตลอดเวลาทั้งที่ไม่ได้เรียกใช้งาน
    4.2.6    คีย์บอร์ดหรือเมาส์ทำงานผิดปกติหรือไม่ทำงานเลย
    4. 2.7 คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลงโดยไม่ทราบสาเหตุหรือบู้ตตัวเองใหม่โดยที่เราไม่ได้สั่ง
    4. 2.8 มีการสูญหายของไฟล์ข้อมูลหรือโปรแกรมโดยไม่ทราบสาเหตุ






4.3   ประเภทของไวรัสคอมพิวเตอร์
          
4. 3.1   บู้ตเซ็กเตอร์ไวรัส   BootSector Virus เป็นไวรัสที่กบดานซุ่มอยู่ในส่วนของดิสก์ที่ต้องใช้ในการบู้ต  ที่เรียกว่า   บู้ตเซ็กเตอร์  (Boot Sector)   การเรียกใช้งานดิสก์ก็เท่ากับไปปลุกไวรัสให้ออกมาทำงาน
บูตตัวอย่างเช่นไวรัส
AntiVir คือการตรวจสอบและการล่าสัตว์ไวรัส bootsector
          
4.3.2   โปรแกรมไฟล์ไวรัส   ไวรัสแฟ้มที่ปฏิบัติการ  , .exe    . SYS,  

ไวรัส exe ได้ตัวอย่างเช่นการตรวจสอบ
Avast ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส  มัลแวร์ที่ช่วยปกป้อง
           
4. 3.3   มาโครไวรัส    ไวรัสแมโคร
เป็นไวรัสที่ก่อกวนการทำงานของโปรแกรมชุดออฟฟิศ เช่น  Word, Excel, Powerpoint  โดยจะสร้างคำสั่งพิเศษที่เรียกว่ามาโคร(Macro) ทำให้การใช้งานมีปัญหา 

          
4. 3.4   สคริปต์ไวรัส   เป็นไวรัสที่เป็นภาษาสคริปต์ (Script)  เช่น    VB สคริปต์ Javascript       ซึ่งไวรัสเหล่านี้จะทำงานเมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ที่มีส่วนขยายเป็น  .vbs  หรือ  .js  ที่เป็นไวรัส และปกติจะแพร่ผ่านมาทางอินเทอร์เน็ต
Norton AntiVirus ตรวจพบไวรัสสคริปต์

 4. 3.5   ไวรัสโทรจัน    โทรจัน (Trojan)   เป็นไวรัสพวกสปายแวร์ (Spyware) ที่จะคอยล้วงข้อมูลจากเครื่องของเราส่งกลับไปให้ผู้เขียนโปรแกรม เช่นชื่อผู้ใช้งาน ( ยูสเซอร์เนม) รหัสผ่าน (พาสเวิร์ด) หรือหมายเลขบัตรเครดิต (เครดิตการ์ด) เป็นต้น

ไวรัสโทรจันสปายแวร์ป้ายแสดงอินเทอร์เน็ตหรือภัยคุกคามคอมพิวเตอร์
           

4. 3.6   ไวรัสกลายพันธุ์    เป็นไวรัสที่มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงลักษณะของตัวเองไปเรื่อยๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับที่รู้จักกันมาก ได้แก่ หนอนต่างๆ (Worms)  ที่แฝงตัวและแพร่หลายผ่านอีเมล์และไฟล์สคริปต์บนอินเทอร์เน็ต



3. การป้องกันและกำจัดไวรัสคอมพิวเตอร์
1. ทุกครั้งที่ได้รับซอฟท์แวร์ที่ไม่ทราบแหล่งผลิต หรือได้รับแจกฟรี หรือดาวน์โหลดมาใช้ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนนำมาใช้งาน      
2. การทำสำเนาแลกเปลี่ยนไฟล์ระหว่างเครื่องต้องตรวจสอบก่อนทุกครั้ง อย่ามั่นใจแม้จะมีโปรแกรมป้องกันไวรัสติดตั้งอยู่ในเครื่องแล้วก็ตาม      
3. ควรสำรองข้อมูลที่สำคัญไว้เสมอ ๆ      
4. ไม่อนุญาตให้คนอื่นมาใช้เครื่องของเรา โดยปราศจากการควบคุมอย่างใกล้ชิด ( โดยเฉพาะการนำโปรแกรมต่างๆ มาติดตั้งในเครื่อง)      
5. ต้องเพิ่มความระมัดระวังเมื่อต้องแลกเปลี่ยนข่าวสารหรือกรอกข้อมูลเมื่อใช้อินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะข้อมูลจาการโฆษณาเชิญชวนในรูปของฟรีต่างๆ      
เช่นการทำงานที่ช้าลงขนาดไฟล์โตขึ้น เป็นต้น       
7. ควรหาซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส (Antivirus) ติดตั้งไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ และอัปเดทฐานข้อมูลไวรัสอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไวรัสชนิดใหม่ ๆ เช่น   McAfee, Norton, PC-Cillin, แพนด้า, NOD32  เป็นต้น            

โปรแกรมป้องกันไวรัสสามารถหามาใช้งานได้จากเว็บไซต์ผู้ผลิต หรือแหล่งดาวน์โหลดที่เชื่อถือได้เช่น   Download.com ,Tucows.com , Thaiware.com  เป็นต้น ส่วนใหญ่เป็นโปรแกรมประเภทแชร์แวร์ให้ทดลองใช้ 30 วัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น